ผหญาสุภาษิต
ภาษาอีสาน
คบคนให้เบิ่งหน้า
ขาวงามงามอย่าฟ้าวเชื่อ
บาดเมื่อขมเคียดแค้น
สิอุกเอ้าอั่งทรวง
ภาษากลาง
คบคนให้ดูหน้า
เห็นหน้าขาวงามก็อย่าไว้วางใจ
เวลาเมื่อโกรธแค้น
แล้วจะรู้สึกเศร้า
เสียใจเกิดความเสียหายขึ้นมาได้
ความหมาย
การที่จะคบหาสมาคมกับผู้ใดให้ดูให้ละเอียดรอบคอบ
อย่าหลงเชื่อเพียงแค่เห็นว่ามีรูปร่าง
หน้าตาสะสวย หรือท่าทางดี
น่าเชื่อถือเท่านั้นต้องศึกษาภูมิหลังความเป็นมาสังเกต
พฤติกรรมให้ดีก่อนจะปักใจเชื่อหรือคบหาอย่างสนิทสนม
เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน หากคบหา
โดยไม่รอบคอบแล้วเกิดอะไรขึ้นจะทำให้เสียใจหรือได้รับความเสียหายจนแก้ไขอะไรไมได้ก็
คือกันไว้ดีกว่าแก้นั่นเอง
ภาษาอีสาน
คันได้กินปลาแล้ว อย่าลืมเอาแหตาก ห่าว่าแหขาดแล้ว ปลาสิได้ฮ่อมได๋
ภาษากลาง ถ้าหากว่าได้กินปลาแล้ว อย่าลืมเอาแหตาก ถ้าแหขาดไม่แหแล้ว จะได้ปลาจากที่ใดมากินอีก
ความหมาย
สอนให้เป็นคนที่รู้จักบุญคุณของคนที่ทำประโยชน์ให้ ไม่ใช่ได้หน้าแล้วลืมหลัง ให้เป็นคนรอบคอบรู้ว่า
อะไรได้มาอย่างไร
ไม่ให้ลืมอะไรง่ายๆ รู้จักเก็บเครื่องมือเครื่องใช้ได้ดี
หากเก็บไม่ดีแล้วเกิดสูญหายหรือ
ชำรุดแล้วจะลำบากไม่มีอะไรจะนำมาใช้อีก
เหมือนแหหลังจากทอดหาปลาเสร็จแล้วก็ให้ล้างตากเก็บให้
เรียบร้อยเผื่อใช้ในการหาปลาในคราวต่อไป
ภาษาอีสาน
คันว่าควมคนเว้า
ขมในอย่าฟ้าวจ่ม
ลางเถื่อขมขี้เพี้ย
ภายหน้าหากสิดี
อย่าฟ้าวติเตียนเว้า
ผักกะเดาว่าขมขื่น บาดได้กินลาบก้อย สิหลงย้องว่าดีได๋
ภาษากลาง
ถ้าหากว่าได้ยินคำพูดที่ตำหนิติเตียน หรือคำที่ไม่ไพเราะ คำพูดที่ได้ยินแล้วไม่พอใจเรานั้นอย่าเพิ่งโกรธ
บางทีคำพูดนั่นอาจจะเป็นความจริงให้ข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ในภายหน้า อย่าได้ตำหนิว่าสะเดามีรส
ขมแต่ถ้าได้นำมากินกับลาบก้อยเนื้ออาจจะอร่อยรสชาติดีก็ได้
ความหมาย
ให้เป็นคนรู้จักพินิจพิจารณาให้รอบคอบอย่าเป็นคนที่ตัดสิน
หรือสรุปอะไรง่ายๆ อาทิ คำพูดที่ไม่ถูกใจเรา
อาจจะเป็นคำตำหนิติเตียงจากเพื่อนบ้าน ผู้หลักผู้ใหญ่ให้นำมาคิดไตร่ตรองมองในแง่ดีอย่างมีเหตุมีผล
ก่อนอย่าเพิ่งโกรธหรือตำหนิไม่ยอมนำมาคิด
ซึ่งคำพูดนั้นอาจจะเป็นคติข้อคิด สามารถจะให้สติของเรา
ได้ในภายหน้าก็ได้
เหมือนกับยอดหรือดอกสะเดาแม้จะมีรสขมแต่พอได้กินกับลาบก้อนเนื้อก็มีรสอร่อย
ได้
เหมือนคำพูดที่ทำให้เราไม่พอใจแต่ถ้าไปตรงกับเหตุการณ์แล้วจะคิดได้ภายหลังก็เป็นได้
อย่าเอา
ความชอบหรือพอใจเราตัดสินสิ่งใดๆเพียงแค่ผิวเผินโดยไม่ได้คิดอย่างมีเหตุผลอย่างถี่ถ้วน
ภาษาอีสาน อันว่าเงินคำแก้ว แนวหายากพานพบ ลางเถื่อมีในมือ กะเป่าแปนปานล้าง
อันว่าเงินคำแก้ว มีหลายแต่ผู้หมั่น ผู้ได๋ขี้คร้าน หาได้กะบ่หมาน
ภาษากลาง อันว่าเงินทอง เป็นสิ่งที่หายากลำบากไม่พานพบได้ง่ายๆ บางครั้งมีอยู่เต็มมือแท้ๆ ก็หมดหดหายไป
ไม่มีเหลือเหมือนล้างด้วยน้ำ
อันว่าเงินทองนี้จะมีมากเฉพาะผู้ที่ขยันรู้จักเก็บรู้จักหา
ใครที่เกียจคร้าน
มีแต่ใช้จ่ายไม่ขยันหา แม้จะมีมากมายหามาได้เท่าไรหรือได้รับทรัพย์มรดกมาจากพ่อ
แม่มีแต่ใช้ไม่รู้จักหาก็จะหมดไปในที่สุด
ความหมาย
สอนให้เป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียรในการหาทรัพย์สินเงินทองเพราะเงินทองนั่นเป็นของที่หาได้ยาก
อย่าเป็นคนดีแต่จ่าย
ต้องรู้จักหาทรัพย์เมื่อได้แล้วก็ต้องรู้จักวางแผนใช้จ่ายว่าสิ่งใดควรจ่ายสิ่งใดไม่ควร
ใช้จ่าย
รู้ว่าอะไรจำเป็นก่อนหลังมากน้อย
อะไรควรเก็บออมเอาไว้ใชในยามฉุกเฉินเจ็บป่วยหรือเมื่อแก่
ชราไม่มีแรงหา
ไม่ใช่มีเท่าไรใช้จ่ายเกลี้ยงไม่คำนึงถึงระโยชน์ความจำเป็น ก็คืออย่าใช้จ่ายตามกระแส
นิยม
และสำคัญที่สุดคือต้องเป็นคนที่ขยันหมั่นเพียรจึงจะมีเงินมีทองได้
ภาษาอีสาน
กกบ่แหน่น
ปลายดกหนากะตามส่าง
ฮากบ่หยั่งฝังเลิ๊กพื้น
บ่มีมั่นอยู่ได้โดนดอกนา
ภาษากลาง
ลำต้นไม้แน่น
ปลายแม้จะดกหนาก็ช่าง
รากไม่หยั่งฝังลึกลงไปในดิน
ไม่มีวันที่จะยึดยืนต้นได้อย่าง
คงทน
ความหมาย
ชีวิตของคนเปรียบเสมือนกับต้นไม้
แม้ว่าจะมีใบดกหนากิ่งก้านสาขาสดสวยงาม
หากไม่มีรากช่วยยึด
เกาะลงไปในดินความแข็งแรงก็ไม่มี
คนจะมีความแข็งแรง มั่นคงก็ต้อง
มีความเป็นอยู่ที่ดีนั่นก็ต้องมีคนให้ความช่วยเหลือ
หรือมีอะไรให้เป็นข้องคิดยึดเหนี่ยวเอาไว้
ที่มา รายงานคำผญา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น